January 25, 2017

เมื่อไรจะค้นพบตัวเอง

(ชีวิตพอเพียงแบบ farm stay ก็ดูดีนะ)


ชีวิตนี่มันสนุกดีนะ
มีอะไรให้เรียนรู้กันไม่หมดไม่สิ้น
ไม่ว่าจะธรรมชาติอันสวยงาม
สัตว์โลกที่มีชีวิตที่น่าเรียนรู้ต่างๆกันไป
หรือมนุษย์เราที่สร้างวัฒนธรรม ประเพณี อาหาร สิ่งประดิษฐ์ที่น่าสนใจออกมาตั้งแต่อดีต

แต่ส่วนตัวแล้วเราคิดว่าสิ่งที่สนุกที่สุด คือ คนรอบข้างเนี่ยแหละ
เราไม่ต้องเดินทางไปไหนไกลๆเพื่อไปหาวิวสุดยอดในตำนาน
ไม่ต้องไปสุดกู่โลกเพื่อชิมอาหารที่ทุกคนล่ำลือกัน
ไม่ต้องไปเรียนลึกๆ ทำงาน nasa เพื่อจะได้เข้าไปช่วยสร้างยานไปดาวอังคาร

เปิด facebook messenger เนี่ยแหละ
นัดเพื่อนออกไปกินข้าว
ทำอะไร "น่าเบื่อๆ" ที่ดูเหมือนจะซ้ำๆ
แต่ก็ได้อะไรใหม่ๆกลับมาทุกที
เป็นการเก็บเกี่ยวประสบการณ์ชีวิตที่ต้นทุนแสนจะต่ำ

โพสนี้เราเอาเรื่องราวของเพื่อนคนนึงที่เราคิดว่าน่าสนใจมากๆมาแบ่งกัน
เป็นเรื่องของคนที่ลองนู่นลองนี่มาเรื่อยๆ ไม่ค้นพบตัวเองซักที
จนตอนนี้คิดว่า เค้าเจอแล้วแหละว่าเค้าต้องการอะไร


ไอ้บอย กับกิจการ hostel และ farm stay ของมัน


เมื่อช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา
เราได้มีโอกาสแวะไปหาเพื่อนสนิทคนนึงที่ อ.ปากช่อง
เพื่อทักทาย อัพเดทข่าวคราวมัน
มันเป็นเพื่อนสมัยเรียน ป.ตรี ด้วยกัน

มันชื่อว่า ไอ้บอย



บอยมันเป็นคนสู้ชีวิตนะ
เราเห็นมันผ่านมรสุมชีวิตมานับไม่ถ้วน
ขอไม่ลงรายละเอียดแต่พูดคร่าวๆว่า
มีตั้งแต่เรื่อง darkๆ จนรวมไปถึงความเสียใจที่มากที่สุดที่มนุษย์คนนึงน่าจะมีได้

แต่กลับไปเจอรอบนี้ เห็นได้ชัดเจนว่า มันมีความสุข
บอยมันเพิ่งแต่งงานไปไม่กี่ปีที่ผ่านมา

ตอนนี้มันกับภรรยาเปิดกิจการ hostel อยู่ที่ปากช่อง โคราช
(แบบที่พักให้พวกฝรั่งที่ชอบสะพายกระเป๋าท่องเที่ยวอยู่ แทนที่จะไปโรงแรมราคาแพงๆ)
ตอนนี้มันมีฟาร์มเป็นของตัวเอง แล้วกำลังขยายกิจการให้เป็น farm stay อยู่

กิจการดูน่าสนุกเลยทีเดียว
มันพาเราไปโชว์ห้องที่มันออกแบบเอง
ที่ว่างที่มันกำลังจะแปลงเป็นสนามบอล
ต้นไม้ร้อยๆต้นที่มันปลูก
ผักที่ปลูกไว้กินเอง
วัวที่มันเริ่มเลี้ยง
กระต๊อบที่ทำจากไม้ไผ่ทั้งหมด
ฯลฯ



ดูมันมีความสุขจริงๆอะ (เออ เขียนไปแล้วนี่หว่า ด้านบน)

30 กว่าปีในชีวิตผ่านไป
ในที่สุดท่าทางมันจะค้นพบตัวเองแล้วว่าชอบทำอะไรซะที

เราก็ไปนั่งคุยกับมัน ให้มันเล่าประสบการณ์ว่า ไปไงมาไงถึงได้มาทำ farm stay ได้เนี่ย



เริ่มต้นด้วยอาชีพโปรแกรมเมอร์

เราเจอไอ้บอยครั้งแรกตอนเรียน ป.ตรี
เราเรียน วิทย์คอม ที่ธรรมศาสตร์เหมือนกัน
เคยทำงานกับมันวิชานึง มันก็เป็นคนที่ทำงานโอเคมีความรับผิดชอบดี

จบป.ตรี บอยมันก็ไปทำงานเขียนโปรแกรมที่ตลาดหลักทรัพย์อยู่หลายปี
จำได้ว่าเงินเดือนเริ่มต้นมันสูงกว่าเพื่อนๆในคณะเลย
การทำงานนี้ทำให้มันรู้ตัวว่า งานเขียนโปรแกรมไม่น่าใช่งานที่มันอยากจะทำต่อไป
ในทางกลับกัน มันสนใจด้าน finance ขึ้น



เรียนต่อ finance

หลังมจากไอ้บอยทำงานเขียนโปรแกรมได้ 2-3 ปี
มันก็ตัดสินใจมาเรียน ป.โท ที่อเมริกาด้าน finance

เนื่องจากมันมาอเมริกาแค่ 2 ปี มันเลยอยากเก็บประสบการณ์ให้คุ้ม
นอกจากจะเรียน มันยังเป็นประธานของสมาคมนักเรียนไทยที่นั่นด้วย
แล้วก็ทำงานร้านอาหารไปพร้อมๆกันอีกตะหาก

จากประสบการณ์นี้ มันก็น่าจะได้ฝึกทักษะการบริหารคน
รวมไปถึงได้รู้ว่าร้านอาหารทำงานยังไง เผื่อวันนึงมันจะเปิดร้านเอง



ทำงาน risk management + ทำบัญชี

พอไอ้บอยเรียนจบโท มันก็พยายามลองสมัครงานในอเมริกาแต่สุดท้ายก็ไม่ติด
มันก็เลยกลับไทยไปสมัครงาน
ก็เป็นงานด้าน risk management ถ้าจำไม่ผิดนะ
ซึ่งมันบอกว่า งานตรงนั้นจริงๆก็ไม่ได้สนุกเท่าไร
จบ finance อยากทำ finance มากกว่า

ช่วงนั้น อา ของมันซึ่งดูแล apartment อยู่
กำลังต้องการคนช่วยดูแลจัดการบัญชี มันก็เลยไปช่วยหน่อย
มันก็เลยไปช่วย อา ทำงานนอกเวลาทำงานหลัก



ค้นพบชีวิตพอเพียง

ระหว่างที่ไอ้บอยทำงาน risk management อยู่
มันก็ได้เจอกับรุ่นพี่คนนึง ถูกโฉลกกัน
รุ่นพี่คนนั้นเลยพาไปดูสถานที่แห่งนึง
สถานที่นั้นคือบ้านของคนคนนึงที่ใช้ชีวิตพอเพียง
สิ่งเดียวที่เค้าต้องพึ่งประเทศคือไฟฟ้า
ขนาดน้ำยังเจาะเองเลย

เหตุการณ์นี้ทำให้ไอ้บอยเกิดความสนใจชีวิตพอเพียงอย่างมาก



ทดสอบชีวิตพอเพียง

ช่วงที่ไอ้บอยค้นพบวิถีชีวิตพอเพียง
มันก็ประจวบกับช่วงที่พ่อบอยเริ่มไม่สบาย
มันเลยได้กลับปากช่องบ่อยๆ

ทีนี้เนี่ย พ่อของบอยมีพื้นที่ว่างที่เคยเอาไว้ให้ชาวไร่ เช่าที่ เพื่อปลูกต้นมะม่วงหรืออะไรงี้
ไอ้บอยก็เลยเริ่มการทดลองว่า ถ้าปลูกอะไรเองมันจะรอดไหม

มันเริ่มจากการปลูกต้นไม้ 20 ต้นที่พื้นที่นั้น
มันบอกกับตัวเองว่า ถ้ามันปลูกต้นไม้ 20 ต้นไม่รอด มันก็คงไปทำเกษตรพอเพียงอะไรไม่ไหว

ปรากฏว่า ต้นไม้รอด
มันเลยค่อยๆเพิ่มจาก 20 ต้น เป็น 100 ต้น
ปลูกผักอะไรงี้บ้าง
แล้วมันก็ขึ้นอีก

ตอนนี้ไอ้บอยมันรู้แล้ว ว่ามันน่าจะไปอยู่อย่างนั้นได้ละ



แปลงบ้านเก่าเป็น hostel

กลับมาเรื่องพ่อบอย ไม่สบายนิดนึง
บอยเห็นว่าบ้านเก่าที่พ่ออยู่มันไม่ค่อยเหมาะกับคนแก่ๆที่ไม่สบาย
มันก็เลยตัดสินใจปลูกบ้านใหม่ให้พ่อมัน

บ้านเก่าก็เลยร้าง มันเลยมีไอเดียว่า
น่าจะลองพัฒนาบ้านเก่ามาเป็นที่อยู่อาศัยให้พวกฝรั่งสะพายเป้เดินทางดู
เพราะปากช่องเป็นแหล่งท่องเที่ยวของคนพวกนี้เยอะอยู่แล้ว
ไหนๆก็มีบ้านร้าง เอามาทำเป็น hostel มันจะได้มีเงินหมุนเวียนบ้าง

ผ่านไป 30 ปีในชีวิต
ไอ้บอยมันพอจะรู้แล้วว่าอยากทำกิจการแบบนี้

มันเลยลาออกจากตำแหน่ง risk management อย่างเต็มตัว
แต่เนื่องจากการจะทำกิจการงี้ ควรจะมีฝีมือการก่อสร้าง
รวมไปถึงฝีมือการดูแลธุรกิจที่พักอาศัย
มันก็เลยไปทำงานอย่างเต็มตัวกับ อา ของมัน

ระหว่างนั้น การสร้าง hostel กับ farm stay ก็เป็นไปอย่างต่อเนื่อง


บ้านทาง hostel กับ farm stay ก็สร้างไปเรื่อยๆทีละหลัง
จนถึงจุดนึงที่ไอ้บอยมั่นใจว่าสร้างบ้านได้
มันก็เริ่มจ้างช่างไฟ คนก่อสร้าง ฯลฯ ด้วยตัวเอง

และหลังจากที่ทำงานกับ อา เก็บประสบการณ์
จนรู้สึกว่าสามารถดูแลธุรกิจที่อยู่อาศัยเองได้
มันก็ลาออกมาทำงานที่ hostel กับ farm stay อย่างเต็มตัว


ตอนนี้ farmstay มันยังสร้างไม่เสร็จ
แต่ hostel เปิดมาได้ซักพักแล้ว
มีรายได้อย่างต่อเนื่องมาตลอด
และดูท่าทางมันก็มีความสุขกับสิ่งที่ทำมาก

happy ending

ก็ยินดีอย่างเป็นทางการอีกทีกับไอ้บอยนะ
เดี๋ยวเราคงเฝ้าติดตามชีวิตมันเรื่อยๆ



บทเรียน

มาถึงตอนนี้ เราว่าเรื่องราวชีวิตไอ้บอยนี่ได้บทเรียนอะไรเยอะแยะไปหมดเลยนะ

หาตัวเองไปเรื่อยๆ

เรามีรุ่นน้องหลายๆคน เคยมาถามอยู่ว่าทำอะไรต่อกับชีวิตดี
จริงๆไม่รู้ว่าตัวเองต้องการอะไร

เรื่องไอ้บอยนี่เป็นตัวอย่างที่ดีมากๆ
กว่ามันจะเจอว่ามันต้องการอะไรก็อายุปาเข้าไป 30 กว่าละ
ก็ยังไม่สายไปใช่ปะ

การที่เราเดินทางมาอยู่ผิดที่ เวลาไม่ได้เสียเปล่าไปหรอก
อย่างน้อยเราก็เอาเวลานั้นมาเรียนรู้ตัวเองว่า เราไม่ได้ชอบสิ่งนั้น
ก็แค่อย่าอยู่กับที่นะ เวลาไม่ชอบอะไร ก็ลองของใหม่ไปเรื่อยๆ

ใครๆก็ท้อ

กว่าจะมาถึงจุดนี้ ไอ้บอยเล่าให้ฟังว่า อยากเลิกทำ hostel หรือ farm stay
แล้วกลับไปทำงานเหมือนเดิม เป็นสิบๆรอบแล้ว
ถ้ามันไม่กัดฟันสู้มันก็ไม่มาถึงจุดนี้

แค่อยากจะบอกว่า ท้อได้ เป็นเรื่องธรรมดามากๆ
แต่มีความอดทนนิดนึง เราทนได้แค่ไหนก็ควรจะทนที่สุดก่อนตัดสินใจล้มเลิก

ลดความเสี่ยง ทำทีละนิด

เสริมข้างบนนิดนึง
ที่บอกว่าถ้าไม่ชอบอะไรให้ลองของใหม่ไปเรื่อยๆ
ก็ต้องไม่ใช่ว่า จะผลีผลาม ลาออกจากงานเดิมไปลองของใหม่ ตลอดเวลานะ
ควรจะทำอะไรทีละนิดๆที่ทำได้

ดูอย่างไอ้บอย มันค่อยๆดูลาดเลา หาประสบการณ์ ลดความเสี่ยงของการย้ายงาน
ตั้งแต่เรื่อง เริ่มจาก ปลูกต้นไม้ 20 ต้นก่อนทำฟาร์มเต็มตัว
หรือเรื่องหาประสบการณ์การดูแลธุรกิจที่อยู่อาศัย ก่อนลาออกจากงานเดิม

ใช้ต้นทุนและสถานการณ์ให้เป็นประโยชน์

ถ้าบ้านบอยไม่ได้อยู่ปากช่อง
ถ้าพ่อบอยไม่ได้มีที่ดินอยู่แล้ว
ถ้าบอยไม่ได้กลับไปปลูกบ้านใหม่ให้พ่อ
ถ้าอาของบอยไม่ได้ทำ apartment

การที่อยู่ๆจะมาสร้างและ hostel หรือ farmstay
คงลำบากกว่านี้เยอะ

จะเห็นได้ว่า ไอ้บอย มันใช้ต้นทุนที่มีทุกอย่างให้เป็นประโยชน์



สรุป

สุดท้ายนี้ก็อยากฝากเรื่องราวของไอ้บอยนี้
ไว้เป็นกำลังใจให้กับคนที่กำลังค้นหาตัวเองอยู่นะ
ลองนู่นลองนี่ไปเรื่อยๆ อดทน ท้อแล้วลุกขึ้นใหม่เรื่อยๆ แล้วก็ค่อยๆเป็นค่อยๆไป

ใครสนใจไปเที่ยวปากช่อง
อุดหนุนไอ้บอย
ลองเข้าไปเช็คดูตามข้างล่างเลย

At HOME Hostel
https://www.facebook.com/ATHOMEPakchong/

และ

บ้านนอกฟาร์มสเตย์
https://www.facebook.com/BaanNorkFarmStay/