January 13, 2016

ทำอย่างไรเมื่อไม่มีเวลาทำงานพอ


เราติดตาม blog ที่ชื่อ Anontawong’s Musing มาซักพัก เป็นรุ่นพี่ที่ทำงานเก่า
จุดเด่นของ blog นี้คือหนึ่งปีที่ผ่านมา พี่รุตม์ (คนเขียน) มีโพสใหม่ให้อ่านกันทุกวัน
แต่ละโพสก็เจ๋งดี แถมมีความหลากหลายด้วย ลองเข้าไปอ่านกันดูนะ


เมื่อเร็วๆนี้ พี่รุตม์โพสเรื่องวิธีการเอาชนะการผัดวันประกันพรุ่ง
ว่าจะทำยังไงให้มั่นใจว่า เราได้ทำงานที่สำคัญทุกวัน
ประกอบไปด้วยว่า ให้ทำงานนั้นก่อน ให้ทำสั้นๆพอ และให้รางวัลตัวเองหลังจากทำแล้ว


ชอบมาก


ก็เลยนำเข้ามาสู่เนื้อหาหลักของโพสนี้ที่ก็คือ
จะทำอย่างไรเมื่อเรา “ไม่มีเวลาทำงานพอ”


ในโลกแห่งความเป็นจริง งานเรามักจะถูกขัดจังหวะด้วยสิ่งต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น meeting หรือการที่เพื่อนชวนกินข้าวเที่ยง หรือการที่มีคนนัดทำกิจกรรม ฯลฯ


ซึ่งถ้าเป็นคนที่จัดการเวลาตัวเองเก่งๆ จะสามารถวางแผนในแต่ละวัน หรือในแต่ละสัปดาห์ให้หลบเรื่องเหล่านี้ได้


แต่หลายๆครั้ง เรื่องพวกนี้ก็มักจะบานปลายหรือไม่คาดฝันขึ้นมา


หรือในกรณีส่วนตัวซึ่งให้ความสำคัญกับความสุขกับคนรอบข้างมากกว่าความสุขจากการทำงาน
อะไรก็ตามที่เป็นการใช้เวลากับเพื่อน จะกลายเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดเสมอ
ทำให้การทำงาน ต้องโคจร รอบๆเวลาที่เหลืออยู่


แล้วสุดท้ายเราแทบจะไม่มีเวลาที่ต่อเนื่องก้อนใหญ่ๆ ไว้ทำงานจริงๆ


สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นมาบ่อยๆ
เมื่อเกิดขึ้น เรามักจะคิดว่า วันนี้ผ่านไปอีกแล้ว หมดเวลาอีกแล้ว


แต่จริงๆ เวลามันไม่ได้หายไปหรอก


เวลามันอยู่ตามซอกๆหลืบๆตะหาก


จริงๆแล้ว วันนึงเรามีเวลา 20 นาทีตรงนี้บ้าง 30 นาทีตรงนี้บ้าง รวมกันมันก็ได้เป็นชั่วโมงๆอยู่
แค่ไม่ใช่ชั่วโมงๆ ที่ต่อเนื่องเท่านั้นเอง


จากประสบการณ์เรียนบ้างทำงานบ้างสลับๆกันไปมาเป็นเวลา 15 ปี
โดยเฉพาะการทำงานที่จะต้องจัดการเวลาและตั้งเป้าหมายตัวเอง ไม่เห็นเจ้านายทุกวัน เช่น project เดี่ยว หรือ ทำงานใน start up หรือ การทำวิจัย
เราก็ได้ถูกฝึกทักษะอันนึงขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว แต่เป็นประโยชน์มากๆอันนึง ก็คือ ทักษะการหางานเล็กๆทำ


เรามักจะมีงานที่จะต้องใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง
แต่เรามักจะมีเวลาว่าง 30 นาทีประปรายตามจุดต่างๆของวัน


มาถึงตรงนี้ก็มีทางเลือกอยู่


อย่างแรกก็คือไม่ทำเลย รอไปทำตอนทีหลัง ดึกๆ เมื่อมีเวลาทำงานเป็นก้อนใหญ่ๆ
เสร็จแล้วตอนดึก ก็เจออะไรที่เบี่ยงเบนความสนใจอีก เช่นกินข้าวอิ่ม ยังไม่มีอารมณ์ทำงานเต็มๆ 1 ชั่วโมง หรือ โทร facetime กับที่บ้านซึ่งอยู่คนละฟากโลก ก็จะทำให้ย้ายไปทำวันพรุ่งนี้แทน


หรือ หางานเล็กๆทำ ภายในเวลาน้อยๆที่มี

ซึ่งการหางานเล็กๆทำ มีสองแบบ


อย่างแรกก็คือ ย้ายงานชิ้นเล็กๆที่ตั้งใจจะทำอยู่แล้วมาทำตอนนั้น เช่น การจ่ายค่าน้ำค่าไฟ หรือการอ่านบทความสั้นๆที่เก็บไว้หนึ่งบทความ ดูบทเรียนบน coursera ซักหนึ่งตอน หรือแม้แต่การงีบ 30 นาทีก็เป็นการเพิ่มพลังงานในการทำงานอื่นทีหลัง (ว่าจะเขียนเรื่องการงีบระหว่างทำงานเร็วๆนี้)


อย่างที่สองก็คือ สร้างงานชิ้นเล็กๆขึ้นมาเอง ด้วยการแตกงานใหญ่ๆออกให้เป็นงานเล็กๆ เช่น


แทนที่จะเขียน blog ทั้งโพส ก็วางแผนการเขียน ว่าจะยกตัวอย่างอะไรบ้าง flow จากหัวข้อนึงสู่หัวข้อนึงจะทำยังไง เขียนหัวข้อแต่ละ paragraph ที่จะเอามาขยายต่อเตรียมไว้ หารูปที่จะเอามาลงเตรียมไว้


แทนที่พยายามอ่านบทความทางวิชาการให้เข้าใจทั้งหมด ก็อ่าน introduction กับ summary เท่านั้น ที่เหลือมาอ่านทีหลัง


แทนที่เราจะหาเวลาเขียนโปรแกรม 2-4 ชั่วโมง ให้อยู่ใน flow เราเอา 30 นาที มา refactor code บางส่วน หรือเขียน unit test เพิ่มเติม หรือเขียน document


การแตกงานย่อยๆมีประโยชน์ก็คือ


ฉะนั้น ใครที่คิดว่า วันนึง เวลาทำงานมันไม่พอ
ลองดูดีๆ ว่ามันมีเวลาว่างตรงนี้ตรงนั้น ตามซอกหลืบหรือไม่
บางที 20-30 นาที ถ้าเราใช้ความคิดสร้างสรรค์ซักนิด เราหางานที่ทำภายในเวลาน้อยๆได้ทั้งนั้นแหละ