July 25, 2012

ว่ากันด้วยเรื่องของเงิน

เมื่อตอนเด็กๆ จำได้ว่า บ้านใครรวย มีคอนโดให้เพื่อนๆไปเยี่ยมมันเป็นอะไรที่เท่ห์มาก

จนมาถึงช่วงวัยรุ่น จำได้ว่า อารมณ์มันประมาณว่า เรื่องเงินไม่มีความสำคัญ ตราบใดที่ฉันและเธอรักกัน เท่านั้นก็พอ

และพอมาถึง "วัยกลางคน" (สังเกตการหลีกเลี่ยงคำว่าแก่) เราก็มาอยู่ตรงกลางๆ ว่า ไม่ควรจะเอาเงินเป็นเรื่องใหญ่ แต่ว่า เงินจำเป็นสำหรับการดำเนินชีวิต

แต่ไอ้ตรงกลางเนี่ยแหละ หายากนักแล

จากการได้ไปพบปะ เที่ยว และ สังสรรค์กับเพื่อนหลายๆกลุ่มหลายๆคน ก็พบว่า แทบทุกคนมีความคิดเรื่องเงินต่างกันไป

มันมีตั้งแต่ระดับว่า นานๆทีจะเจอกัน (ปีละครั้งสองครั้ง) แต่ถ้ากินข้าวที่ที่ราคาสูงกว่า เฉลี่ย นิดหน่อย ก็จะบ่นว่าแพง

จนไปถึงอีกฟากนึง ที่มันสามารถซื้อของราคาเป็นหมื่นเพราะสะสมเฉยๆ

และก็ยังมีประเภทที่ ประหยัดทุกกระเบียดนิ้ว แม้กระทั่งเรื่องการการศึกษา หรือการได้สังคมกับคนอื่น

ซึ่งโดยรวมๆ มันก็ไม่ควรจะมีใครผิดใครถูกใช่มะ

แต่เพื่อก่อให้เกิดความแตกแยกทางสังคม อย่างที่คนไทยเค้าชอบทำกัน :P เราอยากจะบอกว่า มันมีกรณีที่ผิดแหละ

กรณีที่ผิดก็คือ คนที่ใช้หรือประหยัดเงินโดยไม่มีการจัดลำดับความสำคัญทั้งสิ้น

ตราบใดที่คนคนหนึ่งมีเหตุผลมารองรับการใช้เงิน เราคิดว่าคนนั้นรู้จักใช้เงิน

ยกตัวอย่างนะ

สำหรับคนบางคน เป้าหมายในชีวิต คือ การได้เรียนรู้ ฉะนั้นถ้ามีโอกาสเรียนรู้ แต่ต้องใช้เงินเยอะ ก็จะไม่เสียดายเลย

สำหรับคนบางคน เป้าหมายในชีวิต คือ การได้ใช้เวลาให้คุ้มค่ากับคนใกล้ชิด ฉะนั้นถ้ามีโอกาสไปกินข้าวกัน แต่ต้องใช้เงินเยอะ ก็จะไม่เสียดายเลย

สำหรับคนบางคน เป้าหมายในชีวิต คือ การสนับสนุนการูตูนเรื่องโปรด ฉะนั้นถ้ามีโอกาสได้ ซื้อตุ๊กตา นารูโตะ ราคาสามหมื่นบาทก็โอเค

สำหรับคนบางคน เป้าหมายในชีวิต คือ ความสวยงาม ฉะนั้นจะอดข้าวอะไรก็ได้ ขอให้มีเงินทำศัลยกรรม ก็ถือว่า มีจุดยืน

สำหรับคนบางคน เป้าหมายในชีวิต คือ การเก็บเงิน เพื่อให้อีกคนนึงมีความสุข ก็ถือว่า โอเค

สำหรับเรา เรารู้สึกว่า คนเราเกิดมา มีธรรมชาติคือ อยู่กันเป็นสังคม เป็นสัตว์ชนิดเดียว ที่รู้ผิดรู้ชั่ว ควรจะใช้ชีวิต เพื่อสนับสนุนความเป็นสังคม และ ช่วยเหลือคนอื่น ฉะนั้น การได้ใช้เงิน เพื่อต่อเติมเสริมสร้างความสัมพันธ์กับคนที่เรารัก หรือการช่วยเหลือคนเดือนร้อน ถือเป็นอะไรที่ไม่ควรประหยัด

ฟังดูเหมือน ตอแหล สร้างภาพ แต่คนที่อ่านโพสนี้จริงๆ ก็คงมีแต่เพื่อนๆที่เข้าใจเรานั่นแหละ :)

ในทางกลับกัน

สำหรับคนที่ประหยัดไปทุกอย่าง แต่ไม่รู้ประหยัดเพื่ออะไร หรือ คนที่เครียดเพราะเสียเงินจำนวนมาก (แต่ไม่ได้เสีย อะไรที่สำคัญในชีวิตไป) ไม่ได้ตั้งใจจะว่า แค่อยากจะบอกว่า มันอาจจะไม่คุ้มค่ากับความเครียดนั้นนะ

สมมติว่า เสียเงิน สองหมื่นบาท เครียด จนชีวิตสั้นลง 1 เดือน สู้ไม่เครียดแล้วทำงานเก็บเงิน เดือนละ 2 หมื่น และไปเที่ยวต่างจังหวัด กับหนึ่งเดือนสุดท้ายในชีวิต อย่างไหนคุ้มกว่ากัน

สรุปก็คือ เรื่องเงินสำคัญมาก มันทำให้เรามีข้าวกิน ทำให้พาคนป่วยไปรักษาได้ ทำให้เราเดินทาง พักผ่อนในแหล่งที่ปลอดภัยได้

แต่ตราบใดที่ สิ่งที่เราให้ความสำคัญ มันยังอยู่ ก็ต้องระวัง อย่าให้เรื่องเงินมาทำให้ลืมตรงนั้นไป

จบแระ (รู้สึกวันนี้ติสต์แตกนิดๆแฮะ)