July 22, 2021

วิธีแก้ imposter syndrome

(เตะบอลมาตั้งแต่มัธยม ซ้อมก็บ่อย แต่ก็ยังมีคนเก่งกว่าเรา แต่ก็ยังเตะนะ)


เตะบอล

เราเคยสงสัยนะเรื่องเตะบอล ว่า ไอ้พวกคนที่เดาะบอลเก่งๆเนี่ย มันฝึกเดาะบอลทำไม
เราคิดงี้เพราะว่า เวลาเตะบอลกันเนี่ย เค้ามักจะวัดกันว่ายิงประตูได้เยอะกว่ากัน
การเดาะบอลเก่ง อาจจะแปลว่าจับบอลไม่พลาด แต่มันไม่ได้นำไปสู่การยิงประตูเท่าไร

ส่วนตัวคิดว่า ถ้าจะให้ฝึกเน้นๆ สำหรับคนที่ไม่มีเวลาฝึกทุกอย่าง
ฝึกรับส่งระยะสั้น มีประโยชน์สุดละ
เพราะถ้าสามารถควบคุมลูกบอลที่ห่างออกจากตัวไปได้ระยะสั้นๆ
ก็สามารถส่งให้เพื่อนร่วมทีม หรือ ถ้าอยู่ใกล้ๆประตูก็เล็งมุมๆ ให้ผู้รักษาประตูรับไม่ถึงได้

ทั้งนี้ทั้งนั้น
พวกเดาะบอลเก่งๆ มันอาจจะส่งระยะสั้นเก่งด้วยก็ได้
แต่ที่สำคัญ คือ ขอให้ยิงประตูได้

ทำงาน

ทีนี้สำหรับบางอาชีพ เช่น โปรแกรมเมอร์เนี่ย
มันจะมีคนที่รู้สึกผิด ถ้าไม่ทำงานเช้า ถ้าไม่กลับค่ำ
เวลาทำงานหลายๆชั่วโมง มันรู้สึกว่าตัวเองทำงานได้ตามความรับผิดชอบ

ทั้งๆที่ (สำหรับเจ้านายดีๆ) เค้าวัดกันที่ผลลัพธ์เฉยๆ
ถ้าสัญญาว่าจะส่งงานได้ แล้วส่งตามกำหนด
ระหว่างนั้น แต่ละวัน ถ้าวันไหนจะทำงานกี่ชั่วโมง
จริงๆมันไม่ควรจะเอามาวัดกัน

ทั้งนี้ทั้งนั้น
พวกที่ส่งงานได้ครบ มันอาจจะทำงานหนักก็ได้
แต่ที่สำคัญ คือ ขอให้ส่งงานได้ครบ

ใช้ชีวิต

ทีนี้สำหรับการใช้ชีวิตเนี่ย
มันจะมีคนที่รู้สึกว่า ตัวเองไม่เก่งพอที่จะมาอยู่ในที่ที่นึง
หลายๆคนอาจจะเรียกสิ่งนี้ว่า imposter syndrome

คนที่มีอาการนี้มักจะคิดว่า
ที่ตัวเองได้มาอยู่ในตำแหน่งๆนึง
มันไม่ใช่เพราะความสามารถตัวเอง แต่เป็นเพราะโชคช่วย
จริงๆมีอีกหลายเรื่องที่ตัวเองยังกระจอกอยู่
กลัวคนอื่นจับได้จังเลย

เช่น คนที่เพิ่งเริ่มเขียนโปรแกรม
จะมีสิทธิ์อะไรที่จะมาสอนคนอื่นเขียนโปรแกรม
เพราะก็มีคนอื่นเก่งกว่าอีกเยอะ

ทั้งๆที่ หลายๆครั้งในชีวิต สิ่งที่เราสนใจคือ "ประโยชน์"

ถ้าเราเป็นนักเรียนที่อยากเรียนภาษาญี่ปุ่นเพื่อที่จะไปเที่ยวญี่ปุ่นได้
ถ้ามีครูที่สามารถสอนเราจนพูดเป็นได้
เราไม่สนใจเท่าไรหรอกนะ ว่าครูที่มีประสบการณ์พอสอนได้
หรือว่าเป็นคนที่เชี่ยวชาญภาษาญี่ปุ่นที่สุดในโลก
ตราบใดที่ครูนั้นพาเราไปถึงจุดหมายได้
(เผลอๆ คนที่เชี่ยวชาญภาษาญี่ปุ่นที่สุดในโลก สอนห่วย เรียนไม่รู้เรื่องก็เป็นไปได้)

ทั้งนี้ทั้งนั่น
พวกที่สอนเก่ง มันก็อาจจะเก่งจริงก็ได้
แต่ที่สำคัญ คือ ขอให้มันเกิดประโยชน์กับคนอื่น

ความอยากชนะ + อยากมีเอกลักษณ์

หรือว่าที่คนเราพยายามเสาะหาความ "เก่ง"
เป็นเพราะคนเราอยากเอาชนะ
หรืออยากมีอะไรที่เป็นเอกลักษณ์กว่าคนอื่น

อันนี้มี mindset ที่อาจจะพอช่วยได้

เราคิดว่าคนประมาณ 90% สามารถเป็นทอป 5 ของโลกได้ไม่ยากนะ

ยกตัวอย่าง เราคิดว่า เราเป็นลูกชายที่แม่เรารักที่สุดในโลก
เรามีพี่สาวคนนึงแต่เค้าไม่ใช่ลูกชาย ฉะนั้นเราคือที่ 1 ในโลกเรื่องนี้

มีความสุขจัง พอใจละ


ไม่เก่ง

เราว่าความ "เก่ง" มันเป็นภาษาที่กำกวมนะ
จะวัดก็วัดยาก

ถึงวัดได้จริงๆ มันก็มีไม่กี่เรื่อง (เช่น กีฬา) ที่วัดกันที่ความเก่ง

แต่หลายๆเรื่องในชีวิตไม่ได้วัดกันที่ความเก่ง
หลายๆเรื่องในชีวิตวัดกันที่ประโยชน์ที่เราทำให้คนอื่น

แล้วจะ "เก่งที่สุด" ไปเพื่ออะไร
เพราะ อยากชนะเหรอ
เพราะ อยากเป็นที่สุดในโลกเหรอ
มันก็ไม่ได้มีประโยชน์กับคนอื่นเท่าไรนะ

"เก่งให้พอ" ก็พอแล้วแหละ
ถึงแม้จะไม่เก่งที่สุด
แต่เป็นคนที่เก่งพอที่จะได้ทำอะไรดีๆให้คนอื่นเยอะๆเนี่ย
เราว่าเป็นอะไรที่โอเคละ